อิทธิพลของรือเบินส์ ของ ยาโกบ ยอร์ดานส์

"Abduction of Europe", ยาโกบ ยอร์ดานส์, ค.ศ. 1615/1616, Gemäldegalerie เบอร์ลิน"การกลับจากอียิปต์ของครอบครัวพระเยซู" โดยยอร์ดานส์

เปเตอร์ เปาล์ รือเบินส์มีอิทธิพลต่องานเขียนของยอร์ดานส์เป็นอันมาก ในบางโอกาสรือเบินส์ก็จะจ้างยอร์ดานส์ให้เขียนภาพร่างสำหรับภาพเขียนใหญ่ให้ หลังจากรือเบินส์เสียชีวิต ยอร์ดานส์ก็กลายเป็นจิตรกรผู้มีชื่อเสียงที่สุดของแอนต์เวิร์ป[12] และเช่นเดียวกับรือเบินส์ งานของยอร์ดานส์ใช้สีที่อุ่นและเป็นธรรมชาติ และเป็นผู้มีความสามารถในการใช้ค่าต่างแสง (chiaroscuro) และการเขียนภาพสว่างในความมืด (tenebrism) ยอร์ดานส์มีความสำเร็จพอประมาณกับการเขียนภาพเหมือน แต่ที่เด่นคือความสามารถในการดึงบุคลิกพื้นฐานของบุคคลในภาพให้เห็น งานเขียนเกี่ยวกับชาวบ้านและงานเขียนชิ้นใหญ่ ๆ ที่แสดงคำสอนทางจริยธรรมมีอิทธิพลต่อจิตรกรเช่นยัน สเตน ยาโกบ ยอร์ดานส์ไม่มีความสามารถพิเศษแต่มักจะเขียนภาพที่มีพื้นฐานมาจากสุภาษิตที่แสดงตัวแบบจากเบื้องหลังที่แตกต่างกันไปและมีอายุแตกต่างกันไปซึ่งนั่งร่วมกันที่โต๊ะในการฉลอง งานที่ชวนขันเหล่านี้มักจะมีบรรยากาศที่ออกไปทางหยาบเล็กน้อย[4] ตลอดชีวิตการเป็นจิตรกร ยอร์ดานส์ได้รับแรงบันดาลใจจากรือเบินส์และใช้แรงจูงใจของรือเบินส์ แต่งานของยอร์ดานส์แตกต่างออกไปตรงที่จะดูเป็นจริงมากกว่า มีตัวแบบในภาพแน่นกว่า และมักจะมีอารมณ์ขันหรือเป็นภาพแบบล้อเลียนมากกว่าแม้แต่ในภาพทางศาสนาหรือในตำนานเทพ[12] "โพรมีเทียส" ที่เขียนราว ค.ศ. 1640 เป็นตัวอย่างที่แสดงทั้งอิทธิพลที่ได้รับจากรือเบินส์ และจากฟรันส์ สไนเดอส์ (Frans Snyders) แม้ว่าเป็นภาพที่ได้รับอิทธิพลมาจากงานที่ร่วมกับรือเบินส์ในภาพหัวข้อเดียวกัน ("พันธนาการโพรมีเทียส") ในราว ค.ศ. 1611-1612 แต่ "โพรมีเทียส" ของยอร์ดานส์ก็เป็นภาพที่ให้ความหวังมากกว่า

ใกล้เคียง

ยาโกบ ยอร์ดานส์ ยาโกบึส แฮ็นรีกึส วันต์โฮฟฟ์ ยาโกบ เดอ ไคน์ที่ 3 (แร็มบรันต์) ยาโกบึส กัปไตน์ ยาโกบ ฟัน ตีเนิน ยาโก ฟัลเก ยาโก อัสปัส ยาโคบ ยาโคบปล้ำสู้กับทูตสวรรค์ ยาโกเลฟ ยัค-9